วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Avast 9 (2014) Review


                 กลับมาอีกเเล้วสำหรับการรีวิวโปรแกรม วันนี้ผมจะมาเเนะนำเเอนตี้ไวรัสตัวนึงที่มีชื่อว่า Avast เเละเเล้วก็พัฒนากันมาถึงเวอร์ชั่น 9 แล้ว ไม่นานนี้เองโดยเวอร์ชั่นนี้ทาง Avast ได้ทำการเปลี่ยน UI ใหม่ให้สอดคล้องกับ Windows 8 "ละมั้ง!" เป็นหน้าต่างเรียบง่าย เเต่เน้นไปด้วยประสิทธิภาพเเละความเร็วที่ไม่เป็นรองเวอร์ชั่นเก่าเลยหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ย้อนกลับไปนานมาเเล้ว... ต้องขอบอกว่า Avast ถือกำเนิดมาตั้งเเต่ปี 1988 ตั้งแต่ไวรัสระบาดใหม่ๆ เลยทีเดียว และเป็นเเอนตี้ที่ลง OS เเรกคือ Windows 95 นั้นเเหละ เราจึงมั่นใจได้ว่าประสบการณ์การพัฒนาของโปรแกรมนี้จึงไม่เเพ้เเอนตี้ไวรัสตัวอื่นเลย ที่โดดเด่นเเละผมชอบที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องของการใช้งานได้ฟรี โดยไม่ต้องเสียเงิน เเละของฟรี  เเละดี มีอยู่ใน Avast เเล้วเเม้ว่าจะมีข้อเสียอยู่บ้าง  (จริงๆ เค้าก็มีเวอร์ชั่นเสียเงินด้วยนะ) เเต่เอาเป็นว่าข้อเสียเราจะมาพูดกันท้ายๆ บทเเล้วกัน

หน้าตาของโปรแกรมเวอร์ชั่น 9 นี้ จะเน้นรูปเเบบการสเเกนที่เหนือจาก Desktop ทั่วไปหน่อยนึง เเละเจาะลึกไปถึง Deep Scan ที่เป็นหัวใจของเวอร์ชั่นนี้ด้วย

เครื่องมือเเรกที่ผมอยากจะเเนะนำเเละเป็นพระเอกของงานเลย คือ Rescue Disk 


Rescue disk นี้มักจะเห็นในเเอนตี้ไวรัสบางรุ่นเช่น Nod32 , Kas ที่เป็นเวอร์ชั่นเสียเงิน เป็นต้น มักจะมีฟังก์ชั่นนี้เเต่ที่น่าเเปลกใจคือ Avast ติดฟังก์ชั่นนี้มาให้ฟรีๆ ด้วย นับว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว มันมีประโยชน์อะไรนะหรอ มันคือการ Create Boot Disk ให้สามารถใช้งานสเเกนในโหมดที่ไม่รัน OS ได้ ปกติเเล้วไวรัสทั่วไปตอนท่านเปิดเครื่องมันจะทำงานใน OS โดยมันจะรันในระหว่างที่ Process ของมันกำลังทำงานอยู่ ทำให้ไม่สามารถลบโดยวิธีปกติได้ เราจึงจะต้อง Boot โดยไม่ไปยุ่งกับ Boot HDD ของระบบ OS ที่เเยกกันเป็นอิสระจาก HDD เเละสามารถเข้าไปลบไวรัสในซ่อนอยู่ใน HDD ได้อย่างง่ายดาย นับว่าเป็นการสเเกนที่ค่อนข้างจะได้ผลเลยทีเดียว มีทั้งรองรับการบูตเเบบ USB เเละ CD ด้วย



หัวข้อนี้คือ " เครื่องมืออัพเดทซอฟท์แวร์ " 
มันสำคัญอย่างไรงั้นหรอ? ถ้าถามผมว่าสำคัญไหมขอตอบว่า น้อยมากที่จะสนใจมัน เเต่อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับบางคนนะครับ ทำไมถึงต้องอัพเดทโปรแกรมกันละ? เพราะโปรแกรมบางอย่างเวอร์ชั่นที่จ่ายออกมาอาจจะมีข้อผิดพลาดหรือบัคที่เราไม่รู้ทำให้ระบบเครื่องหรือโอเอสมีปัญหาได้  มันจะทำหน้าที่ในการตรวจหาโปรแกรมเวอร์ชั่นใหม่ในเครื่องเราเเละทำการอัพเดทให้เลย สำหรับผมบางครั้ง ไม่รู้ว่าเพราะเน็ตผมช้าหรือเป็นเพราะเซิร์ฟเวอร์ของเค้าช้านะ เเต่ผมรู้สึกว่ามันช้ากว่าการเข้าเว็บไปอัพเดทเองมากเลย ส่วนใครสนใจอาจจะต้องลองดูก็ได้ ผมคิดว่ามันเป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างจะสะดวกมากเลยทีเดียวนะ 




หัวข้อ สถิติ 

หัวข้อนี้เป็นหัวข้อที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจน้อยที่สุดเมื่อใช้งานเเอนตี้ไวรัส มันจะบอกประวัติการตรวจสอบของระบบที่ผ่านมา เเละระยะเวลา 24 ชม.ที่ผ่านมาของเเอนตี้ไวรัส ไม่ว่าจะเป็นประวัติในเครื่องของเราหรือทั่วโลกว่าประสิทธิภาพการตรวจสอบไวรัสเเละการเจอไวรัส มันมีประสิทธิภาพเเค่ไหน ฟังก์ชั่นนี้อาจจะมีประโยชน์เเด่คนพัฒนาโปรแกรมเพื่อทำผลสำรวจ เพื่อนำไปปรับปรุงเเก้ไขโปรแกรมต่อไป 

การสเเกน
ประโยชน์ของตัวนี้ถือว่าเป็นปัจจัยหลักของเเอนตี้ไวรัสเพราะทุกตัวต้องมีอยู่เเล้ว การปรับปรุงไปจาก Avast 8 มาสู่ 9 นับว่ามีความเเตกต่างอย่างมากเลยทีเดียว avast คุยว่าการปรับปรุงการสเเกนในรอบนี้ สามารถที่จะสเเกนไวรัสหรือไฟล์ติดเชื้อได้ละเอียดมาก เเละรวดเร็วกว่าเก่า พร้อมกับห้อข้อในการสเเกนเเหล่งเก็บข้อมูลอื่นให้ง่ายต่อการเลือกใช้อีกด้วย นับว่าเป็นการตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ถูกทางเเละใช้งานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก การค้นหาเมนูง่ายเหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป โดยที่ไม่ต้องมีความชำนาญก็สามารถใช้งานได้ด้วย 


ในส่วนของการลงทะเบียนโปรแกรมฟรีนั้นไม่ยาก สามารถลงทะเบียนผ่านบัญชีของ Facebook ได้ด้วย อายุการใช้งานโปรแกรมนี้ 1 ปีเต็ม ถ้าหมด 1 ปีสามารถต่อฟรีได้ไหม ทำไมถึงต้องลงทะเบียนทั้งๆ ที่เป็นของฟรีอยู่เเล้ว เพราะ Avast อาจต้องการเก็บข้อมูลผู้ใช้รวมไปถึงการเข้าถึงผู้ใช้งานมากขึ้น การติดต่อระหว่างผู้ใช้งาน Support เเละการเเจ้งปัญหาบน Forum 


Deep Scan เป็นส่วนการสเเกนเเบบลึก โดยปกติทั่วไปเเล้วโปรแกรมหรือไวรัสต่างๆ อาจจะถูกสเเกนได้ด้วยเเอนตี้ไวรัสทั่วไปที่ใช้หลักการในการหา Hex code เป็นการตรวจสอบซิกเนเจอร์ของไวรัสว่าตรงกับฐานข้อมูลของเเอนตี้หรือไม่ หรือาจจะทำการตรวจสอบค่า CheckSum ของไฟล์ ของโปรแกรมว่าเป็นไวรัสหรือเปล่า เเต่ใน Deep Scan เเล้วเเอนตี้ไวรัสธรรมดาไม่สามารถทำได้ถ้าไวรัสมันมากับ File ที่จะเอามา Setup ในเครื่องอีกที จะสามารถสเเกนถึงโครงสร้างทั้งหมดของโปรแกรม อาจจะทำให้ใช้เวลานานมากใน File Setup บางอย่าง ถ้าไม่ต้องการก็สามารถปิดไปได้ 


ในส่วนท้ายบทนี้ผมจะประเมินการใช้งานข้อดีรวมถึงข้อเสียของเเอนตี้ไวรัสที่มีชื่อว่า Avast เวอร์ชั่น 9.0.2006 

ข้อดี 
- เพิ่ม GUI ใหม่เข้ามาทำให้ระบบ Page เปิดใช้งานได้เร็วขึ้น 
- เปิดเครื่องเเละรัน Process ได้เร็วขึ้น เรียกใช้งานโปรแกรมโดยไม่ต้องรอนานมาก
- เพิ่ม Streaming updates รวดเร็วมากขึ้นกว่าเวอร์ชั่นที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจความสดใหม่ของรายชื่อไวรัส 
- การ Config ตำเเหน่งของโปรแกรม รูปเเบบ เมนูไม่รกจนเกินไปทำให้มองง่าย 
- การ Support ดี Forum มีเจ้าหน้าที่ตอบ ไม่เเบ่งชนชั้นเเม้จะใช้เวอร์ชั่นฟรี ก็ติชมกันได้ 
- รองรับการใช้งานตั้งเเต่ Windows XP , Vista , 7 , 8
- ปกป้องอุปกรณ์ไร้สายได้ เเละการเชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์กับคอมพิวเตอร์ 
- AutoRun จากเเหล่งเก็บข้อมูลคือการตรวจสอบที่เเท้จริง ไม่มั่วเหมือนแอนตี้ไวรัสบางตัวที่เห็นเขียนว่า Autorun ก็ลบไปซะหมด


ข้อเสีย 
- Deep Scan ช้าไป (เเนะนำให้ปิด) 
- Login บางเว็บไม่ได้ น่าจะติดฟังก์ชั่น Web shield จะต้องปิดแอนตี้ไวรัสชั่วคราวเพื่อทำการเข้าระบบ 
- ยังมีปัญหาเรื่องของ Add- ons หรือส่วนเสริมใน IE ที่ทำให้ IE ค้างเป็นช่วงๆ รวมถึง Browser อื่น 
- Key ใช้ร่วมกับ Avast 8 ไม่ได้ จะต้องลงทะเบียนใหม่ 
- ไม่มีเน็ตสำหรับลงทะเบียนจะใช้งานได้เพียง 30 วัน 


หมดเเล้วครับสำหรับการรีวิวเเอนตี้ไวรัสตัวนี้ หวังว่าอาจจะเป็นข้อมูลในการตัดสินใจใช้งานได้ 
ขอบคุณครับ 




วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สุดยอดโปรแกรมกู้ข้อมูลสื่อ Stellar Phoenix Photo Recovery !! (อย่างละเอียด)


         สวัสดีครับวันนี้เหน็ดเหนื่อยกับการกู้ข้อมูลงานรูปภาพให้ลูกค้า รวมแล้วเฉลี่ยประมาณ 2 3 หมื่นกว่ารูปกินเนื้อที่ไปทั้งหมด 47 GB เป็นรูปขนาด 2 - 5 MB ต่อรูปทั้งนั้น รวมๆ แล้วฮาร์ดดิสก์ขนาด 500 กิ๊กกาไบต์ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง เห็นจะได้ สรุปข้อมูลมาทั้งหมด 80 - 90% หลักจากการ Format ไป (ลบเเละเเบ่งพาทีชั่นใหม่ด้วยซ้ำ) สาระสำคัญเเละพระเอกของงานเลยไม่ใช่ผม ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ที่เร็วเเละเเรง เป็นโปรแกรมเจ้าของโปรแกรม Stellar Phoenix Photo Recovery กู้โลกทั้งใบของผมไว้กับมันเนี้ยเเหละ วันนี้ผมจะมาเเนะนำโปรแกรมกู้ข้อมูลรูปภาพเเละสื่อจากโปรแกรมนี้กัน ปกติโปรแกรมนี้จะมีอีกเวอร์ชั่นที่เป็นกู้ข้อมูลเกี่ยวกับ DATA ด้วยเมืองนอกขายกันในราคา 49 $ หรือประมาณ 1400 กว่าบาท


เอาละเรามาเริ่มกันเลย
ขั้นเเรกเข้าหน้าต่างโปรแกรมจะเจอเเบบนี้

ให้เลือกที่ Recover Photo, Audio & Video เลยครับ 
ต่อมาจะเจอหน้าต่างในการเลือกไดร์วหรือพาทีชั่นที่เราจะต้องการกู้ 
เพื่อความรวดเร็วในการกู้ข้อมูล โปรดระบุไดร์วในการกู้ให้ชัดเจน อย่างเช่นเพื่อน ๆ Format Drive D: เท่านั้นให้เราเลือกที่ D: เป็นต้น ถ้าเลือกแล้วเเนะนำอย่าเพิ่ง ดับเบิ้ลคลิกนะครับ
ให้เลือกที่หัวข้อ Advance Scan



เสร็จเเล้วจะมาเจอกับหน้าต่างนี้


เจอหัวข้อเเบบนี้ผมว่าก็เข้าใจกันง่ายอยู่นะครับ เลือก นามสกุลไฟล์ที่ต้องการจะกู้ เช่น JPG , Gif เป็นต้น ถ้าไม่เอาเลยให้เลือก unselect all ถ้าจะกู้แต่รูปภาพอย่างเดียวให้เลือกแค่ Photo นอกนั้น unselete ทุกกลุ่มได้เลยครับ ส่วนในรูปนั้น Extension คือรูปเเบบหรือนามสกุลของไฟล์นั้นๆ ให้เราติกออกให้หมดถ้าไม่ใช่นามสกุลที่เราต้องการจะกู้มัน เสร็จแล้วให้กดลูกศรเล็กๆ ข้างขวามือด้วยนะครับ
ส่วนหัวข้อนี้ที่มีปัญหาไม่ผ่านกันเยอะเลย เป็นเพราะตัวเลขไทยนะครับให้ปรับในหัวข้อเปลี่ยนภาษาที่ control panel >  Region 
จากที่เป็นเลขไทย ให้เป็น 123456789 นะครับ โปรแกรมถึงจะยอมรับให้รันได้ 

เมื่อเสร็จเเล้วกดลูกศรเล็กๆ ข้างขวามือเหมือนเดิมครับเพื่อไปสู่ขั้นตอนการสเเกนไฟล์เพื่อจะกู้ข้อมูลรูปภาพครับ 
นี่เป็นตัวอย่างกำลังทำการสเเกนครับ บางครั้งตรงที่ Scanning in Progress อาจจะมีรูปภาพรีวิวเเบบสุ่มขึ้นมาเป็นพักๆ นะครับไม่ต้องตกใจไป เมื่อกู้เสร็จเเล้วจะขึ้นหน้าต่างแบบนี้ครับ 
ให้เรากดปุ่ม Recover เเล้วเลือกตำเเหน่งที่ต้องการจะ Save ลงไปครับ เเนะนำว่าอย่า Save ไดร์วเดียวกันกับที่เรากู้ บางอย่างระบบไม่ยอมให้ Save ด้วยซ้ำครับ เพราะอาจจะมีไฟล์ Save ซ้อนทับกับข้อมูลเก่าทำให้การกู้คืนรูปภาพหรือมัลติมีเดียอาจจะมีปัญหาได้ภายหลังนะครับ เพียงเท่านี้ข้อมูลที่ท่านอยากได้ก็กลับมาเเล้ว อาจจะลองทำที่บ้านดูก็ได้นะครับ เพราะใช้งานง่ายมาก เเละไม่วุ่นวาย เมื่อวานจากการทดสอบแล้วข้อมูลที่ได้เป็นที่น่าพอใช้ การสเเกนค่อนข้างจะละเอียดมากเมื่อเทียบกับโปรแกรม อื่นๆ ส่วนบทความโปรแกรมนี้ผมว่าน่าจะลองเอาไปใช้งานดูนะครับ ^^" ใช้ง่ายไม่ยาก























วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2556

Tip Computer 8/9/2556



         สวัสดีครับพบกันอีกเเล้วหลังจากบทความสุดท้ายในเรื่องของเเอนตี้ไวรัส Avast มาวันนี้อยากจะย้อนทวนสิ่งที่เรียกว่าทริปคอมพิวเตอร์กันสักเล็กน้อยบ้าง หลายๆ คนอาจจะมีความรู้กันบ้างเเล้วในบางเรื่องเเละหลายคนยังไม่รู้ วัตถุประสงค์ของการเขียนบทความนี้เพื่อที่คนที่จะต้องการเริ่มศึกษาวิธีการเเก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์เบื้องต้น เเละอยากจะทดลองทำเองบ้าง หรืออ่านหาความรู้บ้างอาจจะเป็นประโยชน์ของใครหลายๆ คนก็ได้ นอกจากนั้นเเล้วบทความที่เขียนมาทั้งหมด มีทั้งความรู้เเละวิธีการ เนื่องจากเป้าหมายหลักของผม อยากจะให้คนไทยที่อ่านบทความมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์เเละสามารถเเก้ไขได้ เเละวันนี้ บางบทความมีคนขอเข้ามาเนื่องจากบทความเก่ารูปอาจจะไม่ขึ้นเเล้วหรือว่าลิงค์ได้เสียชีวิตไปเเล้ว เข้าเเล้วไม่เจอรูปบ้าง วันนี้ผมจะเขียนในบางเรื่องซ้ำอีกรอบแล้วกัน



1.การแก้ไขเรื่องของ Check Disk ตอนเปิดเครื่อง

ปัญหานี้อาจจะเป็นที่ฉงนของใครหลายๆ คนทีเดียวสำหรับส่วนใหญ่ของคนที่ใช้ Windows XP เป็นหลัก เพราะปัญหานี้โลกเเตกจริงๆ เเละบางครั้งอาจจะเเก้ไม่หายด้วยจนกว่าจะ Format หรือ Clean Drive นั้นทิ้งไป นั้นคือเวลาเปิดเครื่องมาเเล้วขึ้น Scan Disk นั้นเอง

ก่อนอื่นเลยจะต้องบอกก่อนว่า สาเหตุหลักๆของเครื่องที่มีปัญหานี้ มักจะมาจากการปิดเครื่องที่ผิดวิธี อธิบายง่ายๆ เลยคือการปิดเครื่องโดยไม่ Shutdown ตามระบบของ OS นั้นเเหละ เมื่อเปิดเครื่องหรือรัน OS ขึ้นมาจะเจอปัญหาอย่างในรูปเลย มักจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ HDD มีปัญหาหรือ Bad Sectors เป็นต้น ที่มันขึ้นเเบบนี้เพราะว่า ไฟล์บางอย่างใน HDD มีปัญหาเเละต้องการการซ่อมเเซม

เเต่จะทำไงละถ้ามันขึ้นตลอด "ทั้งๆ ที่เราก็ปิดถูกวิธีเเล้วนิหน่า"
ส่วนใครที่ไม่ชอบมัน วิธีการเปิดก็ง่ายเเสนง่ายเลยที่เดียว

1.เข้าไปที่ Start > ช่อง Run เเล้วพิมพ์คำว่า Regedit 
ตามรูปเลยนะครับ
จะเป็นหน้าต่างนี้ขึ้นมา

ให้เข้าไปที่
HKEY_LOCAL_MACHINE \SYSTEM\CurrentControl\SetControl\Session Manager



ให้ดับเบิ้ลคลิกตรงที่เขียนว่า AutoChkTimeOut เเล้วจะเจอหน้าต่าง Edit Multi-String 
ให้เเก้โดยการเอาเครื่องหมายดอกจัน " * " ออกไปเเล้วกด OK 
 ให้ขึ้นเเบบนี้โดยไม่มีเครื่องหมาย * ก็ใช้ได้เเล้ว 
ตอนนี้เปิดเครื่องมาจะไม่มี สเเกนดิสก์เเล้วครับ 

* หมายเหตุ เครื่องคอมจะไม่สเเกนดิสก์ถ้าไม่มีข้อสงสัยว่า Disk หรือ File นั้นจะเสียหาย การเปิด Chkdsk นี้คือละเว้นการการสเเกน อาจจะไม่ทราบถึงปัญหาที่เเท้จริง ถ้าเกิดไม่มั่นใจประการใดหรือมีข้อสงสัยว่าระบบไฟล์จะมีปัญหาก็ควรตรวจสอบปัญหาจากที่มาซะก่อนจะปิดมัน จุดประสงค์ของการปิดคือ เมื่อไม่อยากให้มันขึ้นเท่านั้นเอง ถ้าสเเกนเเล้วยังขึ้นอีกก็สมควรที่จะ Check HDD ของท่านเเล้วละครับ 





 2.โปรแกรมกู้ข้อมูล Recuva (ฟรี)

        บ่อยครั้งที่เราลบไฟล์จากเครื่องไปอย่างไม่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์งาน รูป เพลง ข้อมูลเอกสารต่างๆ ที่สำคัญ หลังจากการ Format ไปเเล้ว 80 - 100% เราอาจจะกู้ได้อยู่ โดยสถิติส่วนใหญ่เเล้วการกู้ข้อมูลกลับมา โอกาสสำเร็จหรือข้อมูลจะมาครบ 100% นั้นยากมาก เนื่องจากข้อมูลที่ถูกลบไปเเล้ว อาจจะมีการ Save ทับไปยัง Sector เดิมทำให้การกู้กลับมาเเบบเก่าเป็นไปได้น้อยที่สุด โอกาสจะน้อยลงเมื่อนับจำนวนครั้งที่ Format ด้วย หากตองการข้อมูลเดิม จงห้ามทำอะไรกับ Drive นั้นๆ เพื่อเรียกคืนโอกาสอันน้อยนิดกลับมา วันนี้จะไม่มาบอกความเสี่ยงในการกู้คืนของข้อมูล เนื้อความเรื่องนี้จริงๆ จะมาบอกหรือเเนะนำโปรแกรมกู้ข้อมูล ที่ฟรี เเละดีด้วย

โปรแกรม
Recuva 
คือโปรแกรมกู้ข้อมูลที่ทาง piriform เค้าทำมาเเจกฟรี (มันก็มีเวอร์ชั่นเสียเงินด้วยนะ) 
โปรแกรมกู้ข้อมูลส่วนใหญ่จะขายในราคาเเพงมาก อย่างของ Getdata Rocovery My File รุ่นโปรฯขายกันในราคา เกือบ 3000 บาทเชียว เเละรุ่น ENT ขายราคา 399 $ (ลองคูณเอา) 

ก่อนอื่นเลยทำการดาวน์โหลดก่อน 
Support ทั้ง Windows 32 บิต เเละ 64 บิต 
 เมื่อโหลดมาเเล้วให้ทำการติดตั้งเหมือนโปรแกรมทั่วไปในเครื่องนั้นเเหละ 

 

หน้าตาโปรแกรมจะเป็นเเบบนี้ ให้กดที่ Next >
ในหน้าต่างนี้มันจะให้เลือกชนิดของไฟล์ที่คุณต้องการจะกู้มันกลับมา กรณีที่ท่านไม่ทราบให้กด All File จริงๆ เเล้วการกด All Files หมายถึงการสเเกนหาไฟล์ที่ต้องการจะกู้มันจะนานขึ้นด้วย หากทราบนามสกุลไฟล์จริงๆ ให้เลือกน่าจะดีกว่า 
หัวข้อนี้จะให้เลือก Drive ที่คุณจะกู้ข้อมูลมันออกมา 
กรณีที่ใส่ Flash Drive เข้าไปหรือไดร์วอื่นๆ ในเครื่องให้กด Browse เพื่อดู
ให้เลือกว่า Enable Deep Scan ด้วย เพราะเป็นการสเเกนให้เชิงลึก 
ไฟล์กำลังสเเกนอาจจะนานหน่อยสำหรับหน่วยเก็บข้อมูลที่ใหญ่มาก (เเหง๋ละกู้ข้อมูลก็ต้องนานสิ) 
เมื่อเสร็จเเล้ว คุณจะเห็นข้อมูลใน Drive ของคุณที่กู้ข้อมูลออกมา เเละกด Review ได้ตามใจชอบ มีการแสดงภาพตัวอย่างไฟล์ในดูด้วยเมื่อกดที่ Option ต่างๆ เเละ Mark เพื่อเป็นการเตรียม Save ข้อมูลที่สามารถกู้ได้ 
* กรณีกู้ข้อมูล ระบบจะไม่ให้ Save ข้อมูลที่ถูกกู้ลงไดร์วเดียวกับข้อมูลที่กู้ ควรเอาไว้เเหล่งอื่นตัวอย่างเช่นคุณกู้ข้อมูลจาก Drive C คุณจะต้อง save ไว้ D: เป็นต้น 


          สำหรับวันนี้เเนะนำเเค่ 2 ทริปนี้ไปก่อนนะครับ รอบหน้าจะมาเขียนเรื่องอะไรก็ต้องติดตามอีกทีนะครับ ส่วนบทความที่เขียนไปเเล้ว ย้อนไปอ่านจะได้ความรู้อย่างเเน่นอนครับ เพราะเขียนไว้ตามความรู้เเละภาษาที่อ่านง่ายไม่มีศัพท์เฉพาะเยอะจนเกินไป ส่วนเรื่องของบทความเกี่ยวกับทริปคอมพิวเตอร์ ถ้าคิดไอเดียออกจะมาเขียนกันอีกรอบ วันนี้พอเเค่นี้ก่อนครับอย่าลืมติดตามอ่านกันในทริปหน้านะครับ  ฝันดีทุกท่านครับ 

วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

Avast ดีไหม?



   
              เหมือนเป็นคำถามโลกเเตกเลยครับ "Anti Virus ตัวไหนดีที่สุด" ผมว่าไม่มีใครตอบได้เเละบางคนคิดว่าไม่มีใครกล้าพอที่จะตอบมันด้วยความว่าตัวไหนดีที่สุด เเละบางคนกลัวดราม่าที่จะตอบครับ เหมือนกับคำถามที่ว่า โค้กและแป๊บซี่ อันไหนอร่อยที่สุด และแน่นอนละครับมันอยู่ที่สไตล์คนชอบมากกว่า การเลือกแอนตี้ไวรัสก็เช่นกันครับ ผมว่าอยู่ที่ user เเละการใช้งานมากกว่า ถามว่าอันไหนดีผมเองก็ตอบไม่ได้ จะบอกอันที่ใช้งานอยู่ก็จะหาว่าเชียร์เพราะเป็นการชอบส่วนตัว วันนี้จะมาวิเคราะห์กันเรียงโปรแกรมเลยทีเดียวว่าอันไหนดีกว่ากัน จากเว็บที่กำหนดรีวิวข้างต้นนี้ผมคิดว่าทุกคนต้องคิดว่า เฮ้ย... จัดอันดับมาได้ไงของตูที่ใช้อยู่ต้องดีสุดสิฟ่ะ เฮ้ย... bit.. ได้อันดับ 1 ได้ไงอันนี้ไม่ใช่เรอะ?
คำถาม คำตอบเหล่านี้มันอยู่ที่ผู้ใช้งานเองถูกใจ ชอบเเละรู้สึกคล่องมือ เมื่อรู้หลักมีประสบการณ์ในการใช้ตัวนั้นพอสมควรเเล้ว มันจะเป็นที่มาของคำว่า "รู้สึกดี ยืดหยุ่นในการใช้งาน เคยชิน เเละคิดว่าดี เป็นต้น" วันนี้ผมเองก็ว่างพอที่จะมานั่งบ่นให้ฟังกันจากประสบการณ์ในการใช้งาน เเละเคยใช้มา ลองผิดลองถูกจน OS พังมาเเล้วหลายรอบอยู่ (เป็นเพราะลงๆ ถอนๆ จน Registry มันค้างอยู่จนลงซ้ำไม่ได้ เวรกรรมไหมละ)

เอาเเละกัน วันนี้ผมจะมาเเนะนำตัวที่มีชื่อว่า Avast เเล้วกัน



สาเหตุที่เอาตัวนี้ขึ้นตัวเเรกเพราะเป็นตัวที่ผมหยิบยืนมา รีวิวง่ายสุดเพราะตัวนี้ผมใช้งานอยู่ทุกวันนี้ (พอดีชอบของฟรี ^^") สำหรับ Avast นี้มีหน้าตาที่ใช้งานง่าย เวอร์ชั่นปัจจุบัน อยู่ที่ 8 ครับ จะออกเเละสำหรับเวอร์ชั่น 9 Beta อยู่ครับ เเละผมจะมาบอกข้อดีเเละข้อเสียของมันกัน ... เพราะจากที่ผมทดสอบใช้งานมาเป็นเวลา ถึง 5 ปียังไม่เคยเจอปัญหาตั้งเเต่เวอร์ชั่น Home Edition แล้วครับ สมัยตอนปี 2008 ละมั้งครับ ตอนนี้รู้สึกว่าจะหยุดใช้ไปพักนึงเพราะได้ ID Nod32 มาฟรี 1 ปี เสร็จเเล้วต้องกลับมาใช้งาน Avast เหมือนเดิมเพราะติดไวรัสที่มากับ Flash Drive :)

 ข้อดี ของโปรแกรมนี้
Avast นี่เป็นเเอนตี้ไวรัส ที่มีการอัพเกรดฐานข้อมูลไวรัสบ่อยที่สุดที่ผมเคยใช้เเอนตี้ไวรัสมาทั้งหมด บางวันอาจจะถึงวันละสองรอบเลย (ทำไมไม่ทำทีเดียว) อาจจะเป็นเพราะความทันใจในประสิทธิภาพการใช้งาน เเละเปิด Feedback ให้สามารถส่งไฟล์ไวรัสไปวิเคราะห์ได้ด้วย ถึงมีการอัพเกรดเร็วเเบบนี้ครับ ส่วนหน้าตาการใช้งาน สำหรับคนที่ชอบภาษาไทยคงจะใช้งานง่าย ไม่ค่อยลบไฟล์มั่วสั่ว (เหมาะสำหรับคนที่ชอบใช้โปรแกรมเถื่อนต่างๆ เพราะมันไม่ค่อยลบ Crack ครับ) 


 เพราะมีเวอร์ชั่นที่ใช้งานเป็นภาษาไทยด้วย นอกจากนั้นเเล้วยังมีระบบที่เรียกว่า บริการป้องกันเเบบ Cloud ถ้าอธิบายภาษาชาวบ้าน คือมีการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลรายชื่อไวรัสจาก Server ฝั่งของ Avast เองเเละเชื่อมโยง Scan กับฝั่งของผู้ใช้งานด้วยนอกจากนี้เเล้วยังมีฟังก์ชั่น การทำความสะอาดบราวเซอร์ , การอัพเกรดโปรแกรมพื้นฐานในเครื่องอัตโนมัติ เป็นต้น นับว่าพร้อมจริงๆ สำหรับ Avast

ส่วนของการตั้งค่า มีการปรับเเต่งความยืดหยุ่นของโปรแกรมที่ใช้งาน ความเรียบง่ายของหน้าตา 
โปรแกรมนี้สามารถใช้งานร่วมกับ Firewall ตัวอื่นๆ ได้โดยที่โปรแกรมไม่ขัดเเย้งการทำงานกัน 


ในส่วนของการตั้งค่าอัพเกรดนะครับ 

การอัพเกรดใหญ่ๆ หลักๆ จะมีสองเเบบคืออัพเกรดตัว โมดูลโปรแกรม เเละ ฐานข้อมูลไวรัสครับ Avast จะค่อนข้างสับสนนิดนึงเกี่ยวกับการอัพเกรด บางคนพอมันเเจ้งเตือนขึ้นมาดันไปกด Update โผล่มาเป็นเวอร์ชั่น Pro เสียเงินซะงั้น จะต้องถอนออกเเล้วลงใหม่ตามระเบียบ ในส่วนของการอัพเกรดโปรแกรม หรือโมดูล จะมี POP UP ในการเเจ้งเตือนขึ้นมาก่อน ถ้าใครจะปรับ Auto ก็ได้ครับ เเต่การอัพเกรดโมดูลส่วนใหญ่จำเป็นจะต้อง Restart เครื่องก่อนด้วยครับ ถึงจะเปิดมาใช้งานได้เต็มที่ ในส่วนของการอัพเกรดฐานข้อมูลไวรัส ตัวนี้จะ Automatic อยู่แล้วครับไม่ต้องไปทำอะไรมัน

 การกระโดดข้ามการสเเกนจาก Avast 

บ่อยครั้งที่เราเล่นเกมออนไลน์ หรือ Crack เกมหรือโปรแกรมโกงเกม "ที่ไม่ใช่ไวรัส" มักจะถูกมองว่าเป็นไวรัสอยู่บ่อยๆ Avast มีฟังก์ชั่นข้ามการสเเกนของไฟล์นั้นๆ หรือทั้ง Dir นั้นๆ ได้เลยโดยการเลือก Path ของตำเเหน่ง Folder นั้นลงไปก็เท่านั้นเอง อย่างเราไม่ต้องการให้มันสเเกน C:\Windows เราก็เลือกไปได้เลย มันก็ไม่ทำการสเเกนใน C:\Windows เลยเเต่ต้องมั่นใจนะครับว่าสิ่งที่เข้าเครื่องเราจะต้องไม่ใช่ไวรัสจริงๆ


ข้อเสีย

โปรแกรมนี้ค่อนข้างจะมีปัญหาระหว่างไวรัสกับโปรแกรม ถ้าเครื่องติดไวรัสไปเเล้ว โปรแกรมนี้จะไม่สามารถลงได้ หรือสเเกนไฟล์ System เเล้วลบค่อนข้างนัวพอสมควร เหมาะสำหรับเครื่องที่ลงโปรแกรม OS ใหม่ๆ เเล้วลง Avast ไปเลยเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับเครื่องที่ติดไวรัส มาเเล้วเพราะการทำงานจะมีปัญหาทั้งหมด การอัพเกรดค่อนข้างบ่อย การลงทะเบียนใช้ของฟรี 1 ปียังจะต้องทำการต่ออินเตอร์เน็ตอยู่ ใครที่จะเอาไปลงเเบบ Offline จะต้องใช้ KEY Offline ด้วย เพราะถ้าไม่ลงทะเบียนจะใช้ได้ประมาณ 30 วันครับ 
สามารถใช้งานได้ 8000 วัน ใช้ได้เฉพาะเวอร์ชั่นฟรีนะครับไม่ต้องมานั้งลงทะเบียนบ่อยๆ 


Avast ผมคิดว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่จะต้องการใช้เเอนตี้ไวรัสที่เค้าใจดีทำให้เราใช้งานได้ฟรีๆ ไม่ต้องเน้นผู้ที่ชำนาญคอมพ์อะไรมากมายเเละเป็นทางเลือกที่ดี โดยที่ไม่ต้องเสียเงินเเละดีกว่าบางโปรแกรมที่จะต้องเสียเงินซื้อด้วยซ้ำ อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ใช้งานคอมโดยไม่ต้องปรับเเต่งตั้งค่าอะไรให้วุ่นวาย ไม่ต้อง Activate หรือใส่ Key เสียเงินซื้อให้มากความ อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครหลายๆ คน ผมจะไม่ขอเอ่ยว่ามันดีเเค่ไหน อยากให้ทุกท่านลองทดสอบใช้งานดูเเละมาวิเคราะห์ถึงข้อดีเเละข้อเสียเพื่อให้คนรุ่นหลังที่ต้องการจะใช้งานเป็นวิทยาทานกันครับ สุดท้ายนี้จะฝากไว้อย่างนึง "เเอนตี้ไวรัสจะดีไม่ดีไม่ได้อยู่ที่เป็นโปรแกรมอะไร อยู่ที่ท่านใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ระมัดระวังเเค่ไหน" เพราะถึงมีเเอนตี้ที่เสียเงินซื้อเเพงที่สุด หากสุดเเล้วเเต่ผู้ใช้ไม่มีพื้นฐานเรื่องคอมพิวเตอร์สักนิด อาจจะติดไวรัสได้เหมือนเดิม 








วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

Avast + Baidu PC Faster BSOD 0x0000008E , 0x0000007B




            สวัสดีครับ วันนี้รีบร้อนนิดหน่อยมาเร่งเขียนบทความอีกชิ้นหรืออาจจะเป็นเเนวทางการเเก้ ไขปัญหาก็ได้ สองสามวันนี้ มีปัญหาเกี่ยวกับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์หลายคนเเล้วที่ใช้งานเเอนตี้ไวรัส Avast ไม่ว่าจะเป็น เวอร์ชั่น 7 หรือ 8 เเละที่เครื่องมีโปรแกรม Baidu PC faster ด้วย จะเจอปัญหาการ Boot เข้า Desktop ไม่ได้ ปัญหา BSOD หรือ Blue Screen of Death  หรือภาษาชาวบ้านที่เรียกว่า "จอฟ้า" นั้น เเหละครับ หรือเปิดวินโดวส์ไม่ได้นั้นเอง หากใครยังไม่เจอปัญหานี้รีบเเก้ไขเเละถอนการติดตั้งออกก่อนจะมีปัญหาในระยะ ยาว โดยหลักการของโปรแกรม Baidu นั้นผมได้บอกไปเเล้วเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ที่เจอในโปรแกรมนี้ในบทความที่เเล้ว เเต่บางคนอาจจะยังมีหลงเหลือในเครื่องมาหรือติดมา อาจจะเป็นเพราะความไม่ตั้งใจ หรือเพราะหน้าตามันสวยชวนให้ใช้งานหรือใครๆ ก็เเล้วเเต่ที่บอกว่าใช้งานแล้วมันดี เป็นต้น ทุกวันนี้ตัว Software ปรากฏ Debug มั่วๆ จนจับจุดในการเเก้ปัญหาของเครื่องเเทบจะไม่เจอเเล้ว (ปกติก็จะไม่ค่อยเที่ยงตรงอยู่แล้ว) หรือท่านอาจจะเปลี่ยนไปใช้ตัวสเเกนไวรัสตัวอื่นเเล้วใช้ Baidu ต่อไปก็ได้ไม่ว่ากัน





วันนี้ สำหรับคนที่เจอปัญหาเกี่ยวกับโปรแกรมนี้ มีวิธีมาถอนการติดตั้งเเละการกู้คืน "ย้อนเวลาระบบ" หรือ system restore มาบอกกัน เพราะโดยปกติเเล้วผมทดสอบโดยการถอนการติดตั้งตรงๆ ปัญหายังไม่หายยกเว้นการย้อนเวลากลับไปวันล่าสุดที่ทำการติดตั้งหรือก่อน หน้านี้ เพื่อไม่ให้เจอปัญหาอีกรอบนึง สำหรับบางคนที่ยังไม่เจอปัญหาเเต่มีโปรแกรมไว้ในเครื่องเเนะนำให้รีบถอนการ ติดตั้งออกตั้งเเต่เนิ่นๆ นะครับจะได้ไม่มีปัญหาในคราวหลัง



1.เข้า Safe mode ก่อนในการถอนการติดตั้ง

ขั้นเเรกเปิดเครื่องมาทำการกดปุ่ม F8 รัวๆ ไว้ตั้งเเต่ตอนเปิดเครื่อง (ถ้าเจอ Menu boot อุปกรณ์ให้เลือก Hard disk เเล้วกดรัวๆ ต่อ)
จะเจอกับหน้าต่างนี้



ให้เลือกอันเเรก คือ Safe Mode นั้นเอง
เสร็จเเล้วจะเป็นหน้าตาในการโหลด File ต่างๆ ไม่ต้องตกใจพอเจอ Pop up ขึ้นมาให้กด Yes
ให้เข้าที่ Start > Control panel > ไปที่ Add or Remove Programs ตามรูป



ให้กดปุ่ม Change / Remove เลย



เลือกอันสุดท้ายคือถอนการติดตั้ง



อันนี้ลองมองดีๆ สีเข้มเป็นยกเลิกการติดตั้งโปรแกรม ให้กดสีจางๆ ที่เขียนว่า ยกเลิกการติดตั้ง (เเหม่หลอกตาจริงๆ)
ถ้าถอนการติดตั้งเสร็จเเล้วไม่ต้องตกใจ เพราะ Add or Remove จะกดอะไรไม่ให้ ให้เข้าที่ Start เลย



ให้เข้าไปตามอันดับรูปเลยครับ
Start > Accessories > System tools > System Restore

เสร็จเเล้วจะเจอกับหน้าต่างนี้
ให้กด Next



ตอนนี้ให้เลือกวันก่อนหน้าที่จะมีปัญหานะครับ โดยการเลือกวันก่อนการติดตั้ง Baidu นะครับ
เช่นในรูป



เสร็จเเล้วกด Next เครื่องจะ Reboot ให้เองนะครับ



เสร็จ เเล้วจะเข้าวินโดวส์ได้ตามปกติเเล้ว จัดการลงเเอนตี้ไวรัสตามปกติ "ถ้าจะให้ดีใน Safe mode ทำการลบทั้ง เเอนตี้ไวรัส ทั้ง Baidu ของท่านไปสองอย่างเลยครับ เเล้วจัดการย้อนเวลาเมื่อกะทำเสร็จเเล้วให้ทำการติดตั้งเเอนตี้ไวรัสใหม่ เเละไม่ต้องยุ่งกับโปรแกรม Baidu Pc faster  อีกครับการกู้คืนระบบอาจจะนานนิดนึงสำหรับคนที่รัน OS มานานเเล้ว อาจจะมีโปรแกรมมากมายที่ติดตั้งในเครื่องโปรดรอเเล้วมันจะใช้เวลาสักประมาณ 5 - 10 นาที



เมื่อทำการกู้คืนระบบได้เเล้วจะขึ้นเเบบนี้ครับ พร้อมใช้งานได้เลย
ส่วนบทความของโปรแกรม Baidu เเละข้อเสียผมได้เขียนไว้หมดนี่เเล้ว ลองเปิดอ่านดูครับ
http://misscoms.blogspot.com/2013/07/tip-computer-3072556-baidu-pc-faster.html

เเละติดตามบทความอื่นๆ ได้จากที่นี่ http://misscoms.blogspot.com


วันนี้ อาจจะไม่มีทริปอะไรมากมาย เเต่เห็นเป็นกันเยอะเลยมาเขียนวิธีการเเก้ปัญหาเบื้องต้นก่อนนะครับ ส่วนใครจะใช้โปรแกรมอะไรที่เหมือนจะดี ผมว่ามันก็ไม่ดีทั้งนั้น ถ้าจะใช้งานเคลียร์ไฟล์ขยะในเครื่องจริงๆ ผมเเนะนำโปรแกรม CCleaner ดีกว่าครับ เพราะเป็นโปรแกรมสามัญประจำเครื่องมากกว่าการสอดเเทรก Registry ของวินโดวส์เเล้วทำ OS เละเทะครับ


Ccleaner Download Link:
http://www.piriform.com/ccleaner
Freeware

วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Bad sectors ของ Hard disk คืออะไร มีผลเสียไหม? และการแก้ไข

                                      


              โดยทั่วไปแล้วอาการเสียคอมพิวเตอร์ที่บ้านอาจจะมีหลายแบบด้วยกันซึ่ง บางอย่างหาสาเหตุไม่เจอ บางอย่างซ่อมเเซมไปเเล้วใช้งานได้ระยะนึงอาจจะมีปัญหาเรื่องการอ่านข้อมูล ปัญหาจอฟ้าหรือ "blue screen" เมื่อเราใช้งานไปสักระยะเเละคิดว่ายอมเสียเงินลงโปรแกรมใหม่อาการพวกนี้น่า จะหายไปจากคอมพิวเตอร์ของเรา ซึ่งมันไม่เป็นเเบบที่คิดมีอาการที่ถูกมองข้ามไปเกี่ยวกับ ROM หรือ Hard disk ที่เรียกว่า Bad sector น้อยคนที่จะพูดถึงมันเรพาะบางเผินๆ เเล้วบางคนอาจจะคิดว่ามันไม่สำคัญ ไม่มีจุดเด่น หรือไม่รู้จักมันด้วยซ้ำไป และส่วนมากอาจจะยังไม่รู้ว่า "Bad Sector" มันสร้างปัญหาให้ระบบโปรแกรมหรือคอมพ์อย่างไร เเละมันเป็นปัญหามากมายเเค่ไหน ร้ายเเรงเเค่ไหน?  มาดูกัน

                                         



              สาเหตุส่วนใหญ่ของ Bad sector ผมจะเรียกว่า "แบด" เเล้วกัน หลักๆ เเล้วเเบดนี่จะมีสองเเบบนะครับภาษาชาวบ้านเรียกว่า เเบดเเท้ กับ เเบดเทียม ครับ ถ้ากรณีเเบดเเท้ อาจจะเกิดจากตัวฮาร์ดดิสก์เองเช่น จานข้อมูลเป็นรอยหรือหัวอ่านเสื่อม ตัวนี้ไม่สามารถเเก้หรือ Block มันได้ เเต่หากเป็นเเบดเทียม สามารถใช้โปรแกรม Block ไม่ให้อ่านจุดนั้นอีกได้ครับ เเต่ถ้ายังอยู่ในประกันเเนะนำให้เคลม เพราะอาจจะลามไปจุดอื่นได้
ส่วน ใหญ่ปัญหาหลักไม่มีอะไรมากนอกจากอาจจะเป็นพฤติกรรมของผู้ใช้งานเอง การใช้ที่ผิดวิธี หรือสภาพเเวดล้อมในการใช้งานไม่อำนวย ปัญหาหลักๆ ที่ทำให้ฮาร์ดดิสก์เกิดเเบดมีด้วยกันดังนี้

- กระเเสไฟที่บ้านตกบ่อย ดับบ่อย ไฟที่ใช้ไม่สม่ำเสมอ เช่นที่บ้านมีเครื่องเกี่ยวกับอุตสหกรรมเช่น เครื่องเชื่อมโลหะ , เครื่องตัดเหล็ก , ตู้เย็นใหญ่ๆ หลายตู้ แอร์หลายตัว
- ใช้ PSU (Power Supply) ไม่มีคุณภาพ หรือราคาถูก
- พฤติกรรมการใช้งาน เช่น ไม่ยอม Shutdown ตามระบบ OS ปิดปลั๊กไปเลย ปิดเครื่องกรณีที่รีบร้อน หรือทำฮาร์ดดิสก์กระเทือนเเละตกจากที่สูง
- อายุเเละระยะเวลาการใช้งาน

จริงๆแล้วจะมีมากกว่านี่ เเต่นี่คือปัญหาที่อยู่รอบๆ ตัวเราทั้งนั้น

จะรู้ได้ไงว่า Hard disk ที่เก็บข้อมูลของเรา มีจุดเสียของข้อมูล "ป้องกันไว้ก่อนมีปัญหา"
ปก ติเเล้ว พื้นฐานทั่วไปเเนะนำให้ใช้โปรแกรมประเภท Check disk เป็นต้น เช่นโปรแกรม HD Tune ที่สามารถโหลดมาใช้งานได้ฟรี  สามารถโหลดโปรแกรมจากที่นี่ http://www.hdtune.com/


เสร็จเเล้วติดตั้งให้เรียบร้อย กด Scan (เเต่ไม่ต้องติก Quick Scan นะครับเพราะมันสเเกนเเบบหยาบๆ อาจจะไม่เจอ)
โปรด รอ อย่าใช้งานเครื่องหนักหน่วงเพราะจะทำให้ยิ่งช้า ควรเปิดทิ้งไว้แล้วรอให้เสร็จก่อน ถ้าสเเกนเเล้วเจอจุดเขียนทั้งหมดเเสดงว่า ฮาร์ดดิสก์ของเราไม่มีปัญหาอะไร สุขภาพดีอยู่ เเต่ควรจะดูหน้า Health ด้วยนะครับว่าเขียนบรรทัดเเดงหรือ Failed หรือไม่ ถ้าหากหน้า Health มี Error เเต่ยังไม่เจอเเบด เเสดงว่ามีปัญหาที่ Controller หรือตรงเเผง PCB ไม่ใช่จานครับ



จากภาพจะเจอ เเบด จะนวนมาก
อาการ ที่มีปัญหาสำหรับ ฮาร์ดดิสก์ที่มีเเบดมีดังนี้ ยกเว้นกรณีที่เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์อื่นๆ กรณีนี้ไม่นับ เว้นเเต่จะต้องไล่เป็นกรณีนะครับ เช่น...
- ใช้งานโปรแกรมหรือ Application อยู่เเล้วค้าง มีปัญหา จอฟ้า
- เครื่องเปิดเเล้วค้างที่ LOGO เมนบอร์ด ไฟเเดง DATA ค้าง ไม่ยอมไปไหน
- Check disk ตอนเปิดเครื่องทุกครั้ง
- ลงโปรแกรมไม่ผ่าน หรือเปิดมาแล้วขึ้น boot from cd disk boot failure insert system disk and press enter (เพราะ MBR ไปเขียนตรงจุดเสียพอดี)
- ลง OS แล้วไม่ผ่าน



เเต่วันนี้เราจะมีพูดถึงฮาร์ดดิสก์ที่หมดประกันเเล้วอยากจะเเก้ไข Bad Sector ให้ใช้งานได้ต่อ
* ข้อเเนะนำนี้ อาจจะต้องใช้ประสบการณ์ด้านคอมพิวเตอร์สักเล็กน้อยครับ *
ผม จะมาเเนะนำโปรแกรมที่เรียกว่า HDAT2 สมัยก่อนโปรแกรมนี้ผมเคยเเนะนำไปรอบนึงเเล้ว ยังใช้งานได้เเต่เวอร์ชั่นที่เวิร์คที่สุดเห็นจะเป็น 4.53 ครับใช้งานง่าย เท่าที่ทดสอบเวอร์ชั่นใหม่ๆ สเเกนไม่เจอเเละไม่ดีเลยครับ เพราะสเเกนเเล้วไม่ค่อยเจอเท่าไหร่

ให้โหลดเเผ่น boot cd ของ Hiren ก่อนครับอันดับเเรก
ผมขอใช้เวอร์ชั่น 15.0 เเล้วกันครับผมคิดว่าน่าจะดีที่สุดเเล้ว
Download : ขนาด 700 กว่า MB นะครับ

Link :  http://ouo.io/UtaPRX



ขั้นเเรกต้องใช้โปรแกรมเบิร์นเเบบอิมเมจไรท์ลงเเผ่น CD ก่อนครับ ให้สามารถ Boot BIOS ได้ (คิดว่าน่าจะทำกันได้เเล้ว)
เเต่ถ้าหากยังทำไม่เป็นลองค้นหาบทความเก่าๆ หรือใน Google ดูครับเพราะเขียนไปหลายรอบมากเรื่องการไรท์เเผ่นเเบบ boot cd


ขั้นตอนการทำมีดังนี้ครับ

เมื่อถึงหน้าต่าง Boot เเล้ว




ให้เลือก Dos Programs นะครับ เสร็จเเล้วไปที่ Hard Drive Tools ...
เข้าโปรแกรม HDAT2 ตามรูปเลยครับ



เลือก Drive ที่จะเเก้ไขปัญหา กรณีนี้ผมไม่มีชื่อฮาร์ดดิสก์นะครับเพราะใช้ VMware หากมี เลือกเลยครับ



เสร็จเเล้วเลือก หัวข้อเเรกตลอดเลยครับจนไปถึงหน้าสเเกน



มาถึงหน้าสเเกนเเล้วต้องรอครับ ...



หน้าต่าง นี้จะทำการสเเกนเเละเเก้ Bad sectors ที่มีครับ มันไม่ได้เเก้ไขให้หายไปจาก Disk มันจะเป็นการ Block ไม่ให้ไปเขียนข้อมูลในจุดนั้นอีก หากฮาร์ดดิสก์ยังมีประกันอยู่ก็ไม่ควรจะเเก้วิธีนี้ เเนะนำให้เคลมดีที่สุด หากหมดประกันเเล้วจะลองเอามาเเก้เล่นๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ข้อควรระวัง
- อย่าให้ไฟตกหรือดับเพราะอาจจะเกิดปัญหาได้ ดวงซวยหน่อยอาจจะพังไปเลย
- อย่ากดปิดเครื่องระหว่างการสเเกนให้ทำการ Stop ก่อน
- อย่าใช้ใน ฮาร์ดดิสก์ภายนอก เช่น USB เพราะระหว่างการสเเกน USB PORT อาจจะหลวมหรือหลุดการเชื่อมต่อได้
ติดตามผลงานได้ที่นี่ http://www.linkbucks.com/AEp3K

HDD ขนาด 120 - 500 จะใช้เวลารอไม่เท่ากันครับ เท่าที่ผมลองดูขนาด 40 GB จะใช้เวลา 30 นาที
ขนาด 120 GB ใช้เวลา 1.30ชม. ขนาด 500 ใช้เวลาทั้งหมด 2 ชม.เศษๆ
อีกวิธีการนึงผมจะไม่ขอพูดถึงเเล้วกันเพราะบทความยาวมาก คือการ Format Low Level อันนี้สามารถเเก้เเบดได้เหมือนกันครับ เพราะเป็นการ ล้างข้อมูลตั้งเเต่ Track 0 Sector 0 (Sector เป็นหน่วยย่อยสุด) ทั้งหมดเลย MBR จะหายไปหมดเหมือนกับฮาร์ดดิสก์ใหม่ที่ออกจากโรงงานผลิตจะทำ Format Low Level กันหมด ส่วน Format high Level คือ Format ทั่วไปก่อนลงวินโดวส์นั้นเเหละครับ มันจัดเรียงข้อมูลใหม่เท่านั้น สามารถกู้ข้อมูลได้เเต่ Low Level ไม่สามารถกู้ได้

         อย่างที่บอกไปข้างต้นเรื่องของเเบด เป็นการตรวจสอบปัญหาเบื้องต้นว่าต้องระวังหรือควรสำรองข้อมูลมากน้อยเเค่ไหน เพราะเป็นอุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลทั้งหมดในเครื่องหากเสียหายเราจะได้เเก้ไขงาน ได้ทัน เเละสำรองข้อมูลได้ทัน งานบางอย่างในเครื่องของผู้ใช้งานเองมีค่ามากกว่าตัวฮาร์ดดิสก์อีกครับ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ (บางคนที่สำคัญมากรูปรับปริญญา รูปครอบครัว หรือความทรงจำต่าง ๆ งานของที่ทำงาน บัญชี เอกสาร รายชื่อลูกค้า) เพราะฮาร์ดดิสก์เป็นส่วนที่เสียเเล้วไปไม่ลามาไม่ไหว้ได้เหมือนกัน ส่วนเรื่องของการเเก้เเบดอาจจะ Advanced ไปสักนิดนึงสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐาน เเต่สำหรับคนที่อยากลองทำสนุกๆ หรืออาจจะขุดฮาร์ดดิสก์ที่คิดว่าเสียหรือไม่ใช้เเล้วเอามาลงเเก้ดูครับ ถ้าไม่มีพื้นฐานก็ไม่ควรทำ เเนะนำให้ส่งประกันไปน่าจะดีกว่า (ถ้ามีประกัน) ผมหวังว่าทุกคนคงได้รับความรู้ในการสเเกนหรือตรวจสอบปัญหาไม่มากก็น้อย จึงไม่จำเป็นเลยจะต้องมีความรู้หรือไม่มีหากท่านศึกษาไว้ปูทาง ก็สามารถตรวจสอบเเละระวังได้ทันการโดยไม่เสียหายมากไปกว่านี้ "รู้บ้างผ่านๆ ดีกว่าไม่รู้อะไรเลยถูกไหมครับ?"


หากสนใจเนื้อหาอื่นๆ ของผมติดตามได้ที่
http://misscoms.blogspot.com/
หรือ ทาง Facebook ครับ จริงๆ เเล้วก็เอาจากเฟสไปลงใน Blog อีกทีนั้นเเหละ
ผม ได้ทะยอยรวบรวมไว้ทั้งหมดที่เขียนทั้งของเก่าของใหม่ เนื่องจากเขียนเองสดๆ ทั้งหมดเลย เลยอาจจะมีคำที่ผิดบ้าง ยังไงก็วิจารณ์กันเข้ามานะครับ เป็นเเนวทางการเเก้ไขต่อไป


สวัสดีวันหยุดครับ







รู้หรือไม่? ฝากลิงค์ก็หาเงินกับ ouo.io ได้เเล้ว หาเงินทางเน็ตจริงหรือไม่?

บทความที่ได้รับความนิยม