สวัสดีครับพบกันอีกเเล้ว จะเข้าสู่ เดือนสุดท้ายของปี 55 เเล้วว่าจะหนาวเเต่อากาศยังร้อนอยู่ดี ปีนี้ไม่มีหน้าหนาวเเล้วละครับ(มั้ง) วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องมือถือกัน อาจจะงงอยู่ดีๆทำไมมาพูดถึงเรื่องมือถือทั้งๆ ที่เมื่อก่อนมีเเต่บทความคอมพิวเตอร์ เดี๋ยวนี้อะไรๆก็เปลี่ยนไป เเม้เเต่เทคโนโลยีก็เปลี่ยน เมื่อก่อนเราใช้โทรศัพท์มือถือกันออฟชั่นเสริมต่างๆก็ไม่มีอะไรมาก software ก็เขียนกันในชุดคำสั่ง os ที่เป็นระดับไม่มีลูกเล่นอะไรเลย คล้ายๆกับ bios หรือ firmware ยังไงอย่างนั้นเลย ยุคสมัยนี้อะไรก็เปลี่ยนไป มือถือได้ปรับรูปเเบบทุกความต้องการเหมือนคอมพิวเตอร์มากขึ้นทุกวัน โดยเอาสิ่งที่จะต้องใช้ในชีวิตประจำวันเข้าไปใส่ด้วย เช่น Multimedia , network , social network ต่างๆ เรียกกันได้ว่า เหมือนคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่กันเลยเเค่ย่อขนาดลงมาหน่อยนึง เข้าใจว่าหลาย ๆ คนอาจจะยังใหม่กับเทคโนโลยีเเบบนี้ มีทั้งผู้ใช้เป็นเเละไม่ค่อยเป็นสักเท่าไหร่ บางคนซื้อมือถือมารุ่นใหม่ ๆ ยังไม่รู้เลยว่าโทรศัพท์ของตัวเองเป็นระบบปฏิบัติการอะไร / เเละเช่นเคยวันนี้จะมาเสนอทิปเล็กน้อยสำหรับ มือถือที่ใช้ระบบ ปฏิบัติการ Android (เเต่เป็นเวอร์ชั่น 2 ) น่ะ!
หลาย ๆ คนยังจะไม่เข้าใจกับระบบ ปฏิบัติการ android ลองเอาไปอ่านดูก่อนเเล้วกัน http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B9%8C_%28%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%29
จะได้เข้าใจว่ามันมีไว้ใช้ทำอะไรเป็นหลักเเต่บทความนี้จะเขียนทิปของ เวอร์ชั่น 2 x เพราะมันจะไม่เก่ามากไปเเละไม่ใหม่มากไป ส่วนคนใช้รุ่นใหม่ ๆ เช่น 4.0 4.1 จะต้องไปหาบทความเอาเองเพราะส่วนตัวเเล้วคนเขียนบทความใช้เวอร์ชั่น 2 อยู่เลยครับ ^^"
1.จะรู้ได้อย่างไรว่าคุณใช้เวอร์ชั่นอะไร?
ขั้นเเรกให้ไปที่ Setting > เเละจะพบเมนูดังภาพ
เสร็จเเล้วกดที่ About Phone
มันจะบอกรายละเอียดของระบบปฏิบัติการของท่านว่าใช้เวอร์ชั่นอะไรบ้าง
Model Number < คือเครื่องที่รัน Android ว่าเป็นเครื่องอะไรรุ่นอะไร ยี่ห้ออะไร
Android Version < คือเวอร์ชั่นของเเอนดรอยด์ ปัจจุบันว่าใช้ของอะไร ตัวอย่างของผมเป็น 2.2 Froyo (firmware V10G) เป็นต้นภาษาชาวบ้านเรียกว่า รอมศูนย์
Kernel Version > ความหมายของตัวนี้ คือโมดูลการสั่งงานต่างๆของเครื่อง จะให้พูดยังไงดี คล้ายๆกับ Firmware มากกว่าเเละมีส่วนสำคัญในการ Root อีกด้วย มันจะปรับ V core , ความเร็ว CPU Mhz ได้ ถ้าสามารถเเก้ไขผ่านตัวนี้ได้มันเหมือนเป็นไฟล์ .DLL ของวินโดวส์หรือไดรเวอร์นั้นเเหละ
Build Number > มันคือรุ่นของการปรับเเต่ง
Software Version > มันเหมือนกับ รุ่นของ Firmware ในเเอนดรอยด์ของเรานั้นเเหละ ตัวนี้จะคล้าย ๆ BIOS ของเครื่อง คอยคุมการจ่ายไฟ เปิดปิด พลังงาน เเละคำสั่งต่างๆ เช่นปุ่มต่างๆไปยัน OS ของเรา
2.การเร่งความเร็วเครื่องสำหรับ Processor ที่ไม่เร็วมาก
ปัญหาระบบช้าเนื่องจากมือถือของท่านมี CPU ที่ไม่ไวพอที่มันจะประมวลผลได้ทันใจผู้ใช้งาน เมื่อการมีอนิเมชั่นทำให้ระบบไม่ค่อยลื่นไหลเเละติดขัดเวลาเข้าโน้นเข้านี่ เราสามารถที่จะปิดมันได้
ให้ไปที่การตั้งค่าเหมือนเดิม
เเล้วเข้าไปที่ Display Settings >
เสร็จเเล้วกดเข้าไปที่ Animation เเล้วปรับ
เลือกที่ NO ไป เสร็จเเล้วกดปุ่ม HOME หรือรูปบ้านบนมือถือได้เลย มันจะเป็นการตั้งค่าที่เสร็จเเล้ว
เท่านี้ android ของท่านก็จะไม่มีเอฟเฟคอะไรที่ทำให้เครื่องของท่านหน่วงอีกเเล้ว
***หากท่านจะต้องการพักหน้าจอเร็วๆให้กดที่ Screen Timeout เเล้วปรับเป็น 1 Min ได้เลย ***
3. คุณรู้หรือไม่ว่า android ยังปรับให้ซิงค์รายชื่อจาก Facebook , Google ได้อีกด้วย
บางทีการติดต่อสื่อสารเดียวนี้เป็นเรื่องง่าย เเละเเทบจะไม่ต้องไปเมมเบอร์เเละขอเบอร์ทีละคนกันเลย
หากเราใช้ระบบ ซิงค์โครไนล์ของระบบ android (บางเครื่องถ้า Flash ROM มาใหม่อาจจะต้องลง Gapp )
เเต่สำหรับคนที่ประสานข้อมูลได้เเล้ว ให้เข้าที่นี่
ก็หน้า Setting เหมือนเดิม
ให้เข้าที่ Account & Sync
เสร็จเเล้วให้กดปุ่ม Add Account ไป
เสร็จเเล้วให้เลือก Profile ที่คุณจะต้องการประสานข้อมูล
ในเมือคุณ Login เเละประสานเรียบร้อยเเล้วจะได้ดังนี้
มันจะมีรายชื่อใน Facebook หากใครกรอกประวัติเบอร์มือถือไว้ที่ เฟสบุ๊กสามารถที่จะกดโทรออกได้เลย
เเต่เดี๋ยวก่อน การประสานข้อมูลบางทีอาจจะมั่วไปหมดทั้งคนที่มีเบอร์เเละไม่มี ให้กดปุ่ม Option เเละปรับมัน
กดเข้าไปที่ Setting เเละ Display option >
เสร็จเเล้วติกเครื่องหมาย ที่ Only contacts with phones มันจะโชว์เเต่คนที่มีหมายเลขโทรศัพท์เท่านั้น
เท่านี้เราก็จะซิงค์รายชื่อได้อย่างน่าพอใจเเล้ว ส่วน Login เข้า Google ก็สามารถจะประสานเก็บรายชื่อได้ไว้อีก เมื่อเราเปลี่ยน ซิม หรือ เครื่อง กลับมา Sync ข้อมูล ข้อมูลเบอร์โทรศัพท์เดิมก็ยังอยู่ ไม่หายไปไหน เพราะมันไปอยู่ใน Server ของ Google ครับ มันจะสามารถดึงกลับมาได้
4.App Thai Speed dial มีประโยชน์อย่างไร
อันนี้อาจจะสั้นนิดนึงเพราะใช้ไม่ยาก มันมีประโยชน์อย่างไร มันจะรวมเบอร์ของศูนย์บริการ การเเจ้ง เเละ ร้องเรียนไว้ที่เดียวกัน
ลองไปหาโหลดดูใน Google Play นะครับ ใช้งานไม่ยาก อัพเกรดตลอด
มีประโยชน์มากสำหรับคนออกนอกบ้านบ่อยๆ เเละเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
5.Android ที่เครื่องสามารถทำเป็น Hotspot ได้ด้วย?
หลายๆ ครั้งที่เราต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตกับ PC หรือ Notebook ที่รองรับ Wireless ของเรา มันจะต้องใช้สายรุงรังรกมากเเละสามารถต่อได้เครื่องเดียว ไหนจะต้องหาไดรเวอร์ USB รุ่นนั้นๆมาลงอีก หนำซ้ำไอ้เครื่องเจ้ากรรมดันจะต้องใช้โปรแกรม PC Suite ต่างๆ อีกวุ่นวายไปหมด
การตั้งค่านี้เครื่องท่านจะต้องรองรับ Wireless ได้ด้วยน่ะ!!
ขั้นเเรกให้เข้าไปที่ Setting นั้นเเหละ(บอกจนเบื่อ)
เเละเข้าหัวข้อ Wireless & network
จะมาถึงหัวข้อเกี่ยวกับเครือข่ายเเล้ว ให้กดที่ Tethering & Portable hotspot ได้เลย
เข้ามาเเล้ว
ให้กดที่ Portable Wi-Fi Hotspot
เเล้วมันจะขึ้นให้ตั้งค่า password อย่างน้อย 8 ตัวนะจ้ะ
เมื่อตั้งค่าเเล้ว มันจะมีบางอย่างขึ้นเตือนมาไม่ต้องไปสนใจ มันจะเตือนคุณเกี่ยวกับพลังงานว่ามันเปลืองเเบต มากเเค่ไหน
เมื่อเปิดการตั้งค่ามันเเล้วจะเป็นเเบบนี้
ให้เราเข้าไปดูรหัสซ้ำอีกรอบ
อันเเรกคือ ชื่อไวเลสของเราตั้งเป็นอะไรก็ได้ให้รู้ว่าเป็นเรา
Security คือมาตรฐานความปลอดภัย ปกติจะใช้ WPA2 การเข้ารหัสเเบบ PSK ถูกต้องเเล้วผ่านไป
Password ใส่ซ้ำอีกรอบ ไม่เเน่ใจให้กด Show password
เเล้ว Save
เพียงเเค่นี้คุณก็สามารถต่อไวเลสจากเครื่องมือถือคุณได้เเล้ว
* ไม่สามารถทำการเชื่อมต่อผ่าน USB จากคอมเเละกระจายไวเลส ได้ ถ้าอยากจะลองต้องไปทดสอบอีกทีเเต่เท่าที่ทำมาไม่สามารถทำได้
มันจะปล่อยสัญญาณได้ในกรณีของ เครือข่าย 3G หรือ เอจ ที่ต่ออยู่ในเครื่องเเละกระจายผ่าน WLAN ให้สามารถเล่นเน็ตได้หลาย PC ที่ติดตั้ง Wireless card /PCI หรือ Notebook ได้หากใครมีวิธีก็บอกกันด้วยนะจ้ะ!
ติดตามบทความได้ที่ Blog ที่อยู่ในหน้า Info เลยครับ หรือ
เฟสบุ๊กบันทึกรอบต่อไป ^^" วันนี้พอเเค่นี้ก่อน ขอเข้านอนพร้อมกันอ่านหนังสือเเล้วคร้าบบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น